ขายและบริการติดตั้ง ผ้าม่าน มีเนื้อผ้าให้เลือกหลายประเภท ทั้งผ้าทึบแสง ผ้าโปร่งสำหรับกรองแสง ผ้ากันแสงในตัวป้องกันแสงแดดได้ดี ตัดเย็บเป็นม่านแบบต่างๆ เช่น ม่านจีบแบบม่านยอดนิยม ม่านสองชั้น ม่านลอน รวมถึงรางผ้าม่าน รางตัวเอ็ม รางโชว์ รางม่านเทปลอนสำหรับม่านลอน
สินค้าสั่งตัดตามพื้นที่จริง ประสบการณ์ตรงในงานม่านกว่า40ปี ตัดเย็บงานคุณภาพ
ภาพถ่ายผลงานบางส่วน
- ตัวอย่างผลงานผ้าม่านแบบต่างๆ
- ตัวอย่าง ผ้าม่านจีบสองชั้น (ผ้าทีบ+ผ้าโปร่ง)
- ภาพตัวอย่างงานติดผ้าม่านกันแสงคู่กับผ้าโปร่ง
- ภาพงานติดตั้งม่านกันแสงชั้นเดียวและม่านรางโชว์
ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
เชิญชมตัวอย่างผ้าชนิดต่างๆได้ที่หน้าร้าน ร้านตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 67/2
รูปแบบผ้าม่านที่นิยมสั่งตัด
นอกจากการเลือกผ้าสวยๆมาตัดเย็บแล้ว รูปแบบของผ้าม่านก็สำคัญไม่แพ้กัน การเลือกแบบที่เหมาะสมมีผลต่อการใช้งานรวมถึงการดูแลรักษาภายหลังอีกด้วย ที่ลูกค้านิยมสั่งตัดแบ่งได้ดังนี้
- ม่านจีบ เป็นแบบผ้ามาตรฐานมีลักษณะคือหัวผ้าจะจับเป็นจีบมี3แฉก มีจุดเด่นคือถอดซักได้ไม่ยุ่งยากมาก
- ม่านจีบสองชั้น(ผ้าทึบ+ผ้าโปร่ง) เป็นการติดม่านแบบจีบ2ชุดซ้อนกันโดยมากชั้นที่ติดเพิ่มจะเป็นผ้าโปร่ง มีจุดเด่นด้านความสวยงาม
- ม่านลอน ลักษณะการใช้งานเหมือนม่านจีบแต่หัวม่านไม่มีการเย็บเป็นจีบ ลอนผ้าเกิดจากเชือกหรือโซ่ที่ร้อยระหว่างลูกล้อในการจัดระยะลอนของม่าน ปัจจุบันจะใช้เป็นเทปลอน การแขวนม่านจะแขวนไว้ใต้รางเหมือนรางโชว์
- ม่านพับ มีลักษณะเป็นพับซ้อนกันขึ้นไปด้านบน จุดเด่นคือใช้พื้นที่น้อย ใช้งานง่าย
- ม่านตาไก่(ตอกตาไก่) ตัวผ้าจะเจาะรูตาไก่ที่หัวผ้าด้านบนไว้สำหรับสอดราวเพื่อแขวนพบได้บ่อยในผ้าแบบสำเร็จรูป มีจุดด้อยคือใช้งานถอดซักยาก
- ม่านแบบทูโทน,ทรีโทน เป็นการนำผ้าอีกสีนึงมาเย็บที่ส่วนบนหรือส่วนล่างของตัวม่าน ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมนัก
ผ้าม่านแต่ละแบบก็ต้องใช้รางหรือราวสำหรับแขวนเฉพาะม่านแบบนั้นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง ชนิดของรางหรือราวสำหรับแขวนผ้าม่าน
ขั้นตอนในการสั่งตัดผ้าม่าน
ลูกค้าที่กำลังจะสั่งตัดผ้าม่าน มีขั้นตอนเบื้องดังนี้
- มองหาแบบผ้าม่านที่ต้องการเช่น ผ้าม่านจีบ ผ้าม่านลอนเทป ม่านตาไก่ ม่านพับ และ ต้องการติดผ้าโปร่งเพิ่มอีกชั้นด้วยไหม
- เลือกผ้าที่ต้องการเลือกเนื้อผ้า,ลายและโทนสีที่ถูกใจ
- รางสำหรับแขวนม่านนอกจากรางระบบมาตรฐานยังเลือกแบบอื่นๆได้อีก และ แบบม่านบางแบบจำเป็นต้องใช้รางแขวนเฉพาะตัว เช่น ม่านเทปลอน
- แจ้งขนาดเพื่อประเมินราคาขนาดกว้างและสูงคร่าวๆ เพื่อดูงบประมาณที่ต้องใช้
- เข้าวัดพื้นที่หน้างานหากราคาอยู่ในงบ นัดวัดพื้นที่หน้างานเพื่อให้ได้ขนาดที่แน่นอนก่อนสั่งตัด
- นัดวันติดตั้งโดยเฉลี่ยใช้เวลาตัดเย็บประมาณ7-10วันหลังจากวัดพื้นที่จริง
ชนิดของผ้าที่นำมาตัดเย็บม่านมีกี่ประเภท
เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดซึ่งโดยมากจะผลิตจากฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้เป็น
-
ผ้าแบล็คเอ้าท์ หรือ
มักจะเรียกกันว่าผ้ากันUV
มีคุณสมบัติเด่นคือกันแสงได้มากกว่า80%
ปัจจุบันถือเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการสั่งตัดไปแล้ว
เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการแสงในช่วงเช้าหรือบริเวณที่ถูกแสงแดดแรงๆ
มีส่วนช่วยลดความร้อนได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ
ตัวอย่างแคตตาล็อกสีผ้ากันแสงรุ่นที่ขายดี - เนื้อผ้าปกติ (ทอชั้นเดียว) ผ้าชนิดนี้จะมีอัตราการส่องผ่านของแสงตามความเข้มของสีผ้า หากเป็นผ้าสีอ่อนจะทำให้ห้องดูสว่าง,ผ้าสีเข้มทำให้ห้องดูมืด สีของผ้าชนิดนี้ส่งผลต่อบรรยากาศภายในห้องได้เป็นอย่างมาก เพราะบรรยากาศของห้องจะเปลี่ยนไปตามสีของผ้าที่เลือก
- ผ้าโปร่ง เป็นผ้าที่มีอัตราการส่องผ่านของแสงได้มากที่สุด คุณสมบัติเด่นคือช่วยลดความแรงของแสงโดยที่ยังพอเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ ทำให้บรรยากาศของห้องดูนุ่มนวล มักจะใช้งานร่วมกับผ้าทึบโดยติดรางม่านเพิ่มอีก1เส้น ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดคือให้ความสวยงาม ลดความแรงของแสงแดดที่ส่องมาภายในห้อง และพรางสายตาจากคนภายนอก
ข้อดีของการติดผ้าโปร่งเพิ่มอีก1ชั้น
ผ้าโปร่ง มีลักษณะเฉพาะคือช่วยกรองแสงและสามารถมองผ่านได้ ที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่จะทอจากเส้นใยสังเคราะห์(polyester) เนื่องจากไม่อมฝุ่นมากนักเมื่อเทียบกับที่ทอด้วยใยฝ้าย(cotton) การติดผ้าโปร่งโดยมากจะเป็นการติดในลักษณะซ้อนด้านหลังผ้าทึบอีกชึ้นนึง(ติดสองชั้น) เหตุผลหลักของลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกใช้ผ้าโปร่งจะเป็นเรื่องความสวยงาม
แต่ประโยชน์ที่สำคัญของผ้าโปร่ง นอกจากเพื่อความสวยงามก็คือ ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้อาศัย ในขณะที่ยังสามารถมองเห็นวิวภายนอกห้องได้ และ ยังช่วงกรองแสงจากภายนอกทำให้แสงที่ผ่านเข้ามาดูนวลตาไม่จ้าจนเกินไป
ความเข้าใจผิดของการใช้ผ้าโปร่ง ลูกค้าบางท่านเข้าใจว่าการติดผ้าโปร่งเพิ่มเข้าไป จะช่วยป้องกันความร้อนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกนัก เนื่องจากความหนาแน่นของเนื้อผ้ามีไม่มาก ทำให้ความสามารถในการป้องกันความร้อนจึงน้อยตามไปด้วย การติดผ้าโปร่งซ้อนไปอีกชั้นจึงไม่ได้ช่วยเรื่องป้องกันความร้อนเท่าใดนัก
การใช้ผ้าม่านทึบแสงเพื่อกันแสงแดดและความร้อน
แต่เดิมการติดผ้าม่านเพื่อป้องกันแสง จะใช้ผ้าปกติธรรมดาที่แสงผ่านบ้างนำมาติดผ้าสีเงิน(ร้านม่าน เรียกผ้าชนิดนี้ว่าผ้าฉาบปรอท)ซ้อนทับลงไปด้านหลัง การติดผ้าซ้อนลักษณะนี้เวลารวบเก็บตัวม่านจะดูพองไม่เป็นธรรมชาติ
แต่ในปัจจุบันนี้มีผ้าชนิดที่ทึบแสงได้ในตัวเองโดยไม่ต้องติดผ้าฉาบปรอทซ้อนด้านหลัง ถูกผลิตขึ้นมา ในท้องตลาดแบ่งออกได้เป็น ชนิดทอด้วยด้ายดำตรงกลาง , ชนิดทึบแสง100%ได้ด้วยตัวเอง และ ชนิดเคลือบโฟมด้านหลัง
ข้อแนะนำ ควรเลือกใช้เนื้อผ้าชนิด ทอด้วยด้ายสีดำตรงกลาง เนื่องจากมีเนื้อผ้านุ่มทิ้งตัวได้ดี ราคาไม่แพง และ ดูเป็นธรรมชาติกว่าชนิดเคลือบโฟม ( ซึ่งส่วนใหญ่ที่มีวางขายจะเป็นชนิดที่ถอดซักไม่ได้อีกทั้งเป็นตัวตัวกักเก็บฝุ่นและอนาคตมีโอกาสที่โฟมจะลอกล่อนได้อีกด้วย) ส่วนชนิดทึบแสง100%ได้ด้วยตัวเอง ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากราคายังสูงอยู่และมีแบบให้เลือกไม่มากนัก
รูปตัวอย่างและข้อมูลก่อนตัดสินใจสั่งตัดม่านเพิ่มเติมได้ทาง ตัวอย่างผลงานผ้าม่านเพิ่มเติม
ตัวอย่างสีผ้ากันแสง ชนิดทอด้วยด้ายสีดำตรงกลาง
ผ้ากันแสงแบบทอ3ชั้น ทึบแสงได้เนื่องจากทอด้วยด้ายสีดำที่ชั้นกลาง เป็นผ้าเซตที่มียอดขายมากที่สุด เนื่องจากเป็นผ้าพื้นไม่มีลายมีหลายเฉดสี เลือกให้เข้ากับโทนในการตกแต่งได้ง่าย อีกทั้งตัวผ้าเองมีเนื้อนิ่มและมีน้ำหนัก ทำให้ทิ้งตัวเป็นธรรมชาติ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ชนิดของรางหรือราวสำหรับแขวนผ้าม่าน
คุณสมบัติของรางม่านแต่ละชนิดเช่นรางเอ็ม ราวโชว์ รางม่านลอน ข้อแตกต่าง รวมถึงวิธีการเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
อ่านต่อ...มู่ลี่และผ้าม่าน มีจุดดีจุดด้อยต่างกันอย่างไร?
แนวทางการเลือกใช้มู่ลี่หรือผ้าม่านเพื่อตกแต่งที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับความต้องการ ข้อดีข้อด้อยของม่านทั้ง2ชนิดมีอะไรบ้าง
อ่านต่อ...สั่งทำผ้าม่านเริ่มต้นอย่างไรดี
สำหรับลูกค้าที่กำลังจะสั่งทำผ้าม่านแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร การเลือกแบบผ้าและราวม่าน การใช้งานผ้าโปร่ง
อ่านต่อ...ทิปเล็กน้อยก่อนสั่งทำผ้าม่าน
สาระควรรู้บางส่วนก่อนจะสั่งทำผ้าม่าน การเลือกสีผ้า ความจำเป็นของผ้าโปร่งและชนิดของรางม่าน
อ่านต่อ...